เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ สตาร์ดวงใหม่ของมาดริด
ว่าที่สตาร์ดวงใหม่ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ มิดฟิลด์ชาวอุรุกวัย ดาวดวงใหม่ที่ทำให้ เรอัล มาดริด ต้องเมินป็อกบา ซึ่งปกติแล้ว "ราชันชุดขาว" มีนโยบายการทุ่มซื้อผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมทัพ แต่ในระยะหลังพวกเขาได้เน้นการให้โอกาสกับผู้เล่นดาวรุ่งขึ้นมามีบทบาทในทีมชุดใหญ่ ซึ่งก็แจ้งเกิดแล้วสำหรับ ดาวจรัสแสงดวงใหม่อย่าง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ วัย 21 ปี
ดาวดวงใหม่ที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทอย่างมากในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ วัลเวร์เด้ ย้ายจาก สโมสรเพนาโรล ในบ้านเกิดของเขา มาอยู่กับ เรอัล มาดริด (ทีมเยาวชน) ในปี 2016 ด้วยอาอยุเพียง 18 ปี เขาถือเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองสุดๆ ซึ่งสโมสรใหญ่ๆทั้ง บาร์เซโลน่า, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ เชลซี ตามให้ความสนใจ แต่ชุดท้ายเขาเลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไป
ด้วยวัยเพียง 21 ปี เขาใช้เวลาเพียง 2 ปี กับทีมกาสตีย่า และ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ด้วยการยืมตัว เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนจะถูก ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือในเวลานั้นเรียกตัวกลับมาติดทีมชุดใหญ่ ครั้งแรกในปี 2018 มีโอกาสลงเล่น 25 เกม ครบทุกรายการ
เจ้าตัวใช้เวลากับการลงเล่นในทีมชุดใหญ่ จนสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในยุคของ ซีเนดีน ซีดาน จากสถิติ 2 ประตู 4 แอสซิสต์ จาก 22 เกม บ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมในตัวเขาได้เป็นอย่างดี เมื่อนำไปเทียบกับรุ่นใหญ่ เจ้าตัวแทบไม่ได้เป็นรองเลย
ซีดานเคยออกปากกล่าวยกย่องเขาว่า "ผมมีความสุขกับฟอร์มการเล่นของเขามาก เขาเป็นผู้เล่นที่มักจะพิสูจน์ตัวเองเสมอว่ามีดีแค่ไหน วัลเวร์เด้ ถือเป็น เขาเป็นผู้เล่นยุคใหม่ที่มีกลไกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันไม่ใช่แค่เกมรุกเท่านั้น เพราะเขาทำงานในเกมรับมากเช่นกันและนั่นคือเรื่องสำคัญสำหรับเกมยุคปัจจุบัน"
วัลเวร์เด้ คือมิดฟิลด์ ที่วิ่งขึ้นลงได้ตลอดทั้งเกม แถมยังมีทีเด็ดจากลูกยิงแถวสองซึ่งกลายเป็นอาวุธสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ในตอนนี้แล้ว ด้วยสไตล์การเล่นดังกล่าวทำให้เขาถูกสื่อนอกนำไปเปรียบเทียบกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือ ปอล ป็อกบาเลยทีเดียว
"ผมทำงานมาตลอดชีวิตเพื่อมาถึงช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ในอดีตผมเคยกลัวที่จะทำผิดพลาด แต่วันนี้ผมรู้สึกเหมือนว่าอยู่บ้านและเป็นส่วนหนึ่งของทีม ผมสบายใจขึ้นมาก ซีดาน ให้ความมั่นใจในตัวผม ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการกล้าส่งเด็กอายุ 21 ปีที่มีประสบการณ์น้อยลงเล่นในเกมยาก เขาบอกผมว่าต้องทำอะไรและคาดหวังอะไรจากผม เขาให้ผมเก็บบอลและหากมีโอกาสก็ให้พยายามทำประตู ผมปรับตัวได้แต่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของผมคือเบอร์ 8 ผมขยับขึ้นหน้าได้มากขึ้นแต่หลายครั้งที่ผมถูกเลือกลงสนามก่อนหน้าคาเซมิโร่" วัลเวร์เด้ กล่าวถึงฟอร์มการเล่นของตัวเขาเอง
เหตุการณ์ที่ทำให้เขาถูกจับตามองเขานั้นคือ เหตุการณ์ที่เจ้าตัวพุ่งเสียบสกัดจากด้านหลังใส่ อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้า "ทีมตราหมี" ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในเกมซูเปร์โกปา นัดชิงชนะเลิศ แม้จะได้รับใบแดงโดนไล่ออกจากสนาม แต่ก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมากมายในการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมในครั้งนี้
ซึ่งทีมอาจจะเสียประตูจากจังหวะนี้ก่อได้ การกระทำของเขาทำให้ "ราชันชุดขาว" ยื้อไปได้จนถึงการดวลจุดโทษและสามารถเอาชนะไปได้ในที่สุด การกระทำของ วัลเวร์เด้ ถูกยกให้เป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ แม้กระทั่ง ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือของ แอตฯ มาดริด ถึงขั้นออกมาชื่นชมเขาเช่นกัน
การไต่ระดับขึ้นมาของมิดฟิลด์ วัย 21 ปี ที่ชื่อว่า เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ถือเป็นการก้าวขึ้นมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ ช่วยทดแทนรุ้นพี่ที่มีอาการบาดเจ็บอย่าง ลูก้า โมดริช เขาลงเล่นแดนกลางร่วมกับรุ่นพี่อย่าง คาเซมิโร่ และ โทนี่ โครส ได้แบบรู้ใจเลยทีเดียว ส่งผลกระทอย่างชัดเจนเมื่อไม่มีเขาลงเล่นในสนาม
กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า ดาวรุ่งวัย 21 ปี วัลเวร์เด้ คืออนาคตของ เรอัล มาดริด ที่ไม่อาจจะปล่อยให้หลุดมือไป หลังมีการตั้งราคาร่าหัวเขาไว้สูงถึง 500 ล้านยูโร คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ทางสโมสร "ราชันสุดขาว" จะล้มเลิกแผนที่จะคว้า ปอล ป๊อกบา ที่ตกเป็นข่าวอย่างหนาหู ซึ่งแค่มี วัลเวร์เด้ อยู่ในทีม ก็น่ากลัวมากพอแล้ว
