
เฟเดรีโก มาเกดา ดาวดับที่โลกลืม
เฟเดรีโก มาเกดา จากฮีโร่สู่ดาวดับที่โลกลืม อดีตดาวรุ่งของทัพ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลที่มีนักเตะดาวรุ่งที่แจ้งเกิด แต่ก็มีหลายคนที่ต้องกลายเป็นดาวร่วง หายเข้าไปในกลีบเมฆ หลังจากทำผลงานสุดยอดโลดแล่นในวงการลูกหนังเพียงไม่กี่นัด
ในยุคปี 2009 เป็นยุคของการผลิตนักเตะดาวรุ่งในขณะนั้นทัพ "ปีศาจแดง" โด่งดังสุดขีดกับการผลิตนักเตะชุดหยุดโลกหรือ "คลาส ออฟ 92" ที่เป็นกำลังสำคัญสร้าง แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ยิ่งใหญ่คับอังกฤษ ผลผลิตจากศูนย์เยาวชนของพวกเขาไม่ค่อยแจ่มมากนัก จนมากระทั่งการแจ้งเกิดของ มาร์คัส แรชฟอร์ด,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เมสัน กรีนวู้ด
ย้อนไปในช่วงยุคมิลเลนเนียม ประมาณปี 2009 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แจ้งเกิดกองหน้าแห่งอนาคตนั่นก็คือ เฟเดริโก้ มาเกดา ไอ้หนูดาวรุ่งชาวอิตาเลียน โดยในปีนั้น แข้งหนุ่มน้อยวัย 17ปี มีชื่ออยู่ในกลุ่มม้านั่งสำรองก่อนจะได้รับโอกาสลงสนามแมตช์ปะทะกับ แอสตัน วิลล่า
ก่อนที่จะลงเล่นกับ "สิงห์ผงาด" นั้น ลูกทีมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มออกอาการเป๋ แพ้มาติดกัน 2นัด กับ ลิเวอร์พูล และ ฟูแล่ม ซึ่งถ้าหากทำแต้มหลุดไปในแมตช์รับมือกับ แอสตัน วิลล่า งานนี้อาจทำให้พวกเขาร่วงจากตำแหน่งจ่าฝูงและอาจโดน "หงส์แดง" แซงเอาได้ง่ายๆ
ในวันที่ 5 เมษายน 2009 พวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาชนะให้ได้ เพียงแค่ 14 นาทีเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่อาคันตุกะได้ 2ประตูรวดจาก ยอห์น คาริว นาทีที่30 และ กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ ช่วงต้นครึ่งหลัง จากนั้น "เฟอร์กี้" ตัดสินใจส่งไฟ่ใบสุดท้ายนั่นก็คือ เฟเดรีโก มาเกดา ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 17ปี ลงสนามแทน นานี่
จากนั้น "ซีอาร์7" จะซัดตีเสมอช่วง 10นาทีสุดท้าย จนกระทั่งเข้าสู่ช่วง "เฟอร์กี้ไทม์" เมื่อ มาเกดา โชว์ความเป็นสุดยอดกองหน้าแห่งอนาคตด้วยการกลับตัวยิงประตูอย่างสุดยอดช่วยให้ "ผีแดง" เฉือนชนะ 3-2 คว้า 3คะแนนสำคัญ และเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนนำไปสู่การคว้าแชมป์ลีกในซีซั่น 2008-2009 ซึ่งทำให้พวกเขาทำสถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 18สมัยเท่ากับ ลิเวอร์พูล
ในเวลานั้น มาร์ติน ไทเลอร์ พิธีกรยังตะโกนชื่อของเขาจนเสียงหลง ส่วน แอนดี้ เกรย์ ผู้ช่วยพิธีกร ประกาศก้องออกไปว่า "สตาร์คนใหม่ถือกำเนิดแล้ว" หลังจากนั้นชีวิตของ มาเกดา ก็เปลี่ยนไปจากดาวรุ่งธรรมดาๆ กลายเป็นสตาร์ที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงเวลานั้น
สัปดาห์ต่อมา มาเกดา ได้โอกาสให้ลงเล่นอีกครั้งในเกมพบกับ ซันเดอร์แลนด์ โดยลงแทน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้น 15นาที เสมอกันอยู่ที่ 1-1 ดาวรุ่งมาแรง ก็แผลงฤทธิ์ด้วยการยื่นเท้าแตะบอลจากการยิงไกลของ ไมเคิ่ล คาร์ เปลี่ยนทางไปเข้าประตูทำให้จบเกม "ปีศาจแดง" ชนะไป 2-1
อย่างไรก็ดีชีวิตของ เฟเดรีโก มาเกดา ไม่ได้ราบรื่นอะไรมากนัก จากที่เคยอาจจะก้าวเป็นดาวดวงใหม่ในวงการลูกหนังเมืองผู้ดีอังกฤษ ช่วงปี 2009-2010 เขาไม่สามารถทำผลงานได้เลย หลังจากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็ถูกส่งไปแบบยืมตัวให้กับทีม ซามพ์โดเรีย ในปี 2011 ซึ่งที่นั่นเขาทำผลงานได้แค่ 1 ประตู จาก 16 นัด หลังจากที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้วางมือจากการลทำทีมลงไป มาเกดา ก็ไม่เคยได้กลับมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" อีกเลย เค้าแทบจะหมดอนาคต ช่วงเวลานั้นเจ้าตัวระหกระเหินเป็นนักเตะพเนจรแบบสัญญาเช่าทั้ง สตุ๊ตการ์ท ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส และเบอร์มิงแฮม ซิตี้
กระทั่งในปี 2014 เจ้าตัวย้ายไปอยู่กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แต่ก็ยังคงล้มเหลวต่อไป และโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในปี 2016 โดยในปีนั้น คาร์ดิฟฟ์ ตัดสินใจยกกเลิกสัญญา ในปี 2018 เขาโนขายทิ้งเพราะอยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยทีมแถมเปลืองเงินอีกต่างหาก
ตอนนี้ มาเกดา ซึ่งอายุ 28ปี เซ็นสัญญากับ พานาธิไนกอส เมื่อปี 2018 แถมผลงานของเจ้าตัวกำลังพีคสุดๆ ซัดไปแล้ว 24ประตูจาก55นัด ในลีกกรีซ ซึ่งที่นี่คือที่ชุบชีวิตอาชีพนักเตะของเขา และน่าจะเป็นฟอร์มที่ร้อนแรงเหมือนกับเมื่อ 11 ปีที่แล้วที่เขาลงเล่นเปิดตัวในฐานะดาวรุ่ง