
อัลฟอนโซ เดวีส์ คืออีกหนึ่งหน้าแข้งดาวรุ่งที่ย้ายเข้ามาอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ในตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วเด็กหนุ่มจากแคนาดาคนนี้มีจุดเด่นในเกมรุกรวมทั้งโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจนถึงกลายเป็นอีกหนึ่งนักฟุตบอลดาวรุ่งที่วงการฟุตบอลกำลังจับตามอง
ด้วยวัยเพียงแต่ 15 ปี อัลฟอนโซ เดวีส์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไปที่ได้ลงเล่นในศึกเมเจอร์ลีกกับทีมแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ หนึ่งปีต่อมา เขาก็เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลที่อายุน้อยที่สุดรวมทั้งผู้กระทำประตูที่อายุต่ำที่สุดของทีมชาติแคนาดารุ่นใหญ่
ผู้คนในวงการฟุตบอลต่างก็ร่ำลือว่าเด็กคนนี้คือ อาร์เยน ร็อบเบน คนต่อไป เขากลายเป็นที่หมายตาของบประมาณรรดาทีมบิ๊กเนมในยุโรป แต่ว่าท้ายที่สุดก็เป็นบาเยิร์นที่คว้าตัวเดวีส์เข้าสังกัดได้สำเร็จในปี 2018
เดวีส์ในวัย 18 ปียังได้รับโอกาสลงในสนามไม่มากนักในช่วงแรก เนื่องจากว่าจะต้องเบียดแย่งตำแหน่งตัวรุกริมเส้นกับบรรดาแข้งฝีเท้าดีอย่าง แซร์จ นาบรี, คิงสลีย์ โกม็อง แล้วก็ ฟรองค์ ริเบรี โดยในตอนช่วงหลังของฤดู 2018/19 เขาถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น ได้ลงในสนามนานที่สุดก็เพียงแค่ 31 นาที แต่ว่าก็สามารถสร้างชื่อด้วยการเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 20 ปีและก็ยังเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 ที่ทำประตูให้ทีมบาเยิร์นได้
และก็แล้วจุดเปลี่ยนแปลงของเดวีส์ก็มาถึง เมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายของดาวิด อาลาบา…
ทีม "เสือใต้" จำต้องเจอกับปัญหาอันน่าปวดหัวในแนวรับ เมื่อกองหลังตัวหลักอย่างนิคลาส ซือเลอ แล้วก็ ลูคัส แอร์กน็องเดซ ได้รับบาดเจ็บหนักจนกระทั่งต้องพักยาว แต่ว่าก็กลายเป็นโอกาสอันดีของเดวีส์ที่กำลังจะได้สอดแทรกเข้ามายืนตำแหน่งแบ็กซ้ายเมื่ออาลาบาถูกจับให้ไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก ท้ายที่สุดเขาได้ลงไปในสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่อง 16 เกมตั้งแต่ช่วงท้ายๆที่ นิโก โควัช คุมทีมมาจนกระทั่งสมัยของฮันซี ฟลิค
ผมมั่นใจมาเสมอว่าเดวีส์จะมาเติมเต็มในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้" ฟลิคกล่าว "เขาคือไพ่โจ๊กเกอร์ของพวกเรา ด้วยความเร็วและก็ความแข็งแกร่งที่ทำให้คุมตำแหน่งของตัวเองได้ และก็เขายังเป็นนักฟุตบอลที่ส่งบอลได้เหมาะสมที่สุดอีกด้วย.. มันเป็นเรื่องของการโชว์ฟอร์ม"
อาลาบาจัดว่าได้รับการยินยอมรับมานานว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่เยี่ยมที่สุดของโลก โดยแข้งชาวออสเตรียลงเล่นในบุนเดสลีกาไปแล้วกว่า 150 นัด ทำได้ 15 ประตูกับ 36 แอสซิสต์ แถมกำลังเริ่มจะมีลุ้นถาดแชมป์บุนเดสลีกายุคที่ 8 ของตัวเองทั้งๆที่ยังอายุยังไม่ถึง 28 ปีด้วยซ้ำ ด้วยประสบการณ์และก็ประสิทธิภาพคับแก้วแบบนี้ อาลาบาจึงเป็นแบบอย่างที่เฟอร์เฟ็คต์สำหรับเดวีส์ ที่แม้จะเพิ่งจะลงเล่นในบุนเดสลีกาไปเพียงแค่ 23 นัด แต่ว่าก็ยิงไปแล้ว 2 ประตู ทำได้ 5 แอสซิสต์พร้อมทั้งคว้าแชมป์บุนเดสลีกากับบาเยิร์นมาแล้ว 1 สมัย จัดว่ายอดเยี่ยมสำหรับเด็กหนุ่มที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี
เรื่องที่เดวีส์เหนือกว่าอาลาบานั้นได้แก่ อัตราการแย่งบอลสำเร็จเฉลี่ยในแต่ละเกม (58% ต่อ 55.7%), อัตราการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู (0.83 ต่อ 0.75), อัตราการสัมผัสบอล (94.7 ต่อ 84.8 ครั้ง), ระยะทางวิ่ง (6.84 ต่อ 6.60 ไมล์), อัตราสปริ้นท์หนีคู่แข่ง (36.3 ต่อ 28.8 ครั้ง) และก็ ท็อปสปีด (22 ต่อ 21.4 ไมล์ต่อชั่วโมง) มีเพียงแต่อัตราการส่งบอลสำเร็จและการบอลเปิดยาวให้เพื่อนยิงประตูเท่านั้นที่เจ้าหนูจากแคนาดาคนนี้เป็นรองรุ่นพี่ชาวออสเตรีย นอกจากนั้น สถิติของเดวีส์ยังสามารถเทียบชั้นนักฟุตบอลระดับตำนานของบาเยิร์นอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม หรือ บิเซนเต ลิซาราซู ได้สบาย ถ้าเกิดไม่นับเรื่องประตูหรือแอสซิสต์ที่ทำได้
แล้วก็ถ้าหากมองนักฟุตบอลคนอื่นในลีกปัจจุบันนี้ ผู้ที่เพียงพอจะทำสถิติได้ใกล้เคียงกับเดวีส์ก็มีเพียงแค่ มาร์เซล ฮัลสเทนแบร์ก จากแอร์เบ ไลป์ซิก รวมทั้ง ราฟาเอล เกร์เรโร กับ อัชราฟ ฮาคิมี จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เท่านั้น ซึ่งทั้งยังสามคนที่ว่ามาต่างก็เล่นในตำแหน่งแบ็กแล้วก็มีประสบการณ์มากกว่าเดวีส์หลายเท่านัก
ที่จริงแล้วการจับเอานักฟุตบอลเชิงรุกมายืนในแผงกองหลังนับว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากสำหรับโค้ช แต่ว่าในกรณีของเดวีส์นั้นกลับสะท้อนให้เห็นถึงไอคิวของนักฟุตบอลที่เสี่ยงแล้วได้มากกว่าเสีย เซบาสเตียน เฮอเนส โค้ชทีมสำรองของบาเยิร์นที่เคยร่วมงานกับเดวีส์ก่อนที่จะอัพเลเวลขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่พูดว่า "การเคยได้เล่นในตำแหน่งปีกมาก่อนมีผลดีต่อเขามากสำหรับในการเล่นแบ็กซ้าย หนึ่งในลักษณะเด่นของเขาก็คือสภาพร่างกาย เขาคือนักกีฬาตัวอย่าง ทั้งยังเร็วแล้วก็แข็งแกร่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าวร่างกายของเขาก็เลยเป็นอาวุธอันยอดเยี่ยมที่สุด เขายังเป็นนักฟุตบอลถนัดเท้าซ้ายแล้วก็เป็นจอมเทคนิคถึงแม้ตอนที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ถ้าหากเขายังพัฒนาฝีเท้าถัดไปแบบนี้ เขาก็จะมีประสิทธิภาพพอที่จะเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของโลกได้เลย"
อวยกันใหญ่ทีเดียว แต่ว่าสถิติมันฟ้องจริงๆว่าเดวีส์กำลังจะไปถึงจุดนั้นแล้ว...