รุย คอสตา คือเพลย์เมคเกอร์ที่มีฝีเท้าฉกาจที่แฟนบอลทั่วทั้งโลกจำเป็นต้องรู้จัก แต่ว่าในมุมมองของคอบอลไทยหลายคน รุย คอสตา มีความหมายมากยิ่งกว่าเพียงแค่ในสนามฟุตบอล
เรื่องราวมันเริ่มจากหนังสือการ์ตูนจากญี่ปุ่นที่ชื่อ Viva Calcio รวมทั้งตัวสำคัญที่ชื่อว่า โย ชิอินะ (โย ชีน่า) ที่ทำให้ รุย คอสตา มีชีวิตอยู่ในโลกอีกใบที่เติมแต่งด้วยลายน้ำหมึก
นี่คือเรื่องราวโลก 2 ใบของ รุย คอสตาในวันที่เขาย้ายมาอยู่ในอิตาลีเป็นปีแรก แล้วก็ในสมัยที่การถ่ายทอดสดบอลเซเรีย อา นั้นหาดูได้ยากเย็น รุย คอสตาฉบับการ์ตูนสร้างอิมแพ็คอย่างไรให้กับคอบอลบ้านเราบ้าง? ติดตามได้ที่นี่
ยุคทองของอิตาลีที่ชาวไทยเข้าถึงยาก
ช่วงยุค 90's เป็นช่วงในตอนที่ฟุตบอลอังกฤษเริ่มยุทธศาสตร์ทำตลาดทั่วทั้งโลก ด้วยการเปลี่ยนชื่อลีกสูงสุดเป็น พรีเมียร์ลีก ในช่วงฤดูกาล 1992-93 รวมทั้งในช่วงนั้นวงการโทรทัศน์บ้านเรา (เมืองไทย) ก็มีพื้นที่พรีเซนเทชั่นให้กับบอลอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าการถ่ายทอดสดจะมิได้มีมากมาย รวมทั้งยังหาดูยากเวลานี้ แต่ว่าสิ่งที่คนไทยได้สัมผัสจากบอลพรีเมียร์ลีกในช่วงดังที่กล่าวถึงแล้วเป็นเริ่มมีการถ่ายทอดเทปบันทึกการแข่งขัน และก็มีรายการวิเคราะห์ เจาะลึก รวมทั้งการนำเสนอไฮไลต์ฟุตบอลอังกฤษที่อยู่ในความจำของคอบอลบ้านเรา คือรายการ "เจาะสนาม" ซึ่งดำเนินรายการโดย เอกชัย นพจินดา หรือ "ย.โย่ง" ผู้ครอบครองฉายา คัมภีร์ฟุตบอล ของประเทศไทย
ช่วงเวลาเดียวกันฝั่ง กัลโช เซเรียอา อิตาลี นั้นเป็นลีกศูนย์รวมซูเปอร์สตาร์ และก็ถือเป็นยุคทองของบอลอิตาลี เพราะว่านอกเหนือจากจะมีลีกที่แข็งแกร่งแล้ว เรื่องเงินค่าจ้างค่าตอบแทนนั้นจัดว่ามาเป็นอันดับ 1 ของสมัยจนมีคำบอกเล่าในหมู่นักเตะว่า "ไปโกยเงินลีร์" (ค่าเงินของอิตาลี ก่อนเปลี่ยนมาใช้ ยูโร)
แต่ว่าสำหรับคอบอลคนประเทศไทยนั้น เซเรียอานับว่าเป็นลีกที่จับต้องยากมากกว่าพรีเมียร์ลีกพอสมควร เนื่องจากว่าการถ่ายทอดสดมีเพียงแค่ช่องเคเบิลทีวี ที่ราคาแพงสมาชิกต่อเดือนสูงมากในสมัยนั้น
ด้วยเหตุนั้น รุย คอสตาก็เลยเป็นนักฟุตบอลที่คอบอลไทยส่วนน้อยจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม หรือทราบดีว่าพิษสงในสนามของเขาเป็นอย่างไรเวลานี้ เพราะเหตุว่าในช่วงฤดูกาล 1994-95 ที่เขาย้ายจากลีกโปรตุเกสมาค้าลำแข้งใน เซเรีย อา ก็เป็นการย้ายมาอยู่กับทีมระดับกลางๆอย่าง ฟิออเรนติน่า ซึ่งยิ่งอยู่ห่างจากแฟนบอลไทยมากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
รุย คอสตาในโลกแห่งความจริง
ถึงแม้ในตอนต้นยุค 90's คอสตาจะดังแค่ไหน แม้กระนั้นเขาก็ยังดังเพียงแค่ในโปรตุเกสแค่นั้น ซึ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าในบ้านพวกเรานั้นหาดูเกือบจะไม่ได้ และเมื่อมาถึงอิตาลี ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้แฟนบอลจดจำนักฟุตบอลระดับสตาร์ตัวเป้งๆอย่าง โรกางร์โต บาจโจ, รุด กุลลิต, มาร์โก ฟาน บาสเทน และยังรวมไปถึง เปาโล มัลดินี มากยิ่งกว่า.. รุย คอสตาก็เลยเป็นราวกับตัวละครลับในสายตาคอบอลบ้านเราในช่วงที่เขามาอิตาลีเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ผลงานของ รุย คอสตานั้นสวนทางกับการมีชื่อเสียง เพราะว่าเขาเป็นคำนิยามของคำว่าเพลย์เมคเกอร์อย่างแท้จริง ไม่ว่าเทคนิคที่เหลือร้าย, สายตาที่เฉียบแหลม และก็ความเข้าใจเกมในระดับที่สูงส่ง ก็เลยทำให้เมื่อ รุย คอสตาได้จับคู่กับ กาเบรียล บาติสตูตา ก็สามารถเห็นได้ถึงความแตกต่างในทันที
เดิมที ฟิออเรนติน่า นั้นจะเรียกว่าทีมระดับกลางค่อนด้านล่างก็ยังได้ เพราะว่าตั้งแต่แมื่อเข้ายุค 90's เป็นต้นมาอันดับก็อยู่ในโซนหนีตายโดยตลอด รวมทั้งในปี 1992-93 ที่หนักข้อถึงกับขนาดตกชั้นไปเลยก็มี ถึงแม้ว่าในยุคนั้นจะมีบาติสตูตาที่ว่ากันว่าเป็นเบอร์ 9 ที่ครบเครื่องที่สุดที่ยุคก็ไม่อาจจะสร้างความต่างได้เพียงลำพัง
จวบจนกระทั่ง คอสตาเข้ามา มันก็คำจำกัดความที่ว่า "เคมีถูกกัน" อย่างที่สุดคอสตาวิสัยทัศน์ในการอ่านเกมและก็ออกบอลของเขาเปลี่ยนแปลงให้บาติสตูตากลายเป็นดาวซัลโวของเซเรียอา ในปี 1994-95 โดยทันที แล้วก็การเข้าคู่กันของ บาติโกล แล้วก็ คอสตา ก็กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนอีกหลายๆคนเริ่มหันมามองทีมม่วงมหากาฬจากเมืองฟลอเรนซ์เพิ่มมากขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ค่อนข้างน่าน้อยใจคือในโลกฟุตบอลนั้นผู้ทำประตูนั้นมักจะเป็นที่จดจำมากกว่าเสมอ แม้ทั้งสองจะทำงานด้วยกันอย่างแข็งขันรวมทั้งสำคัญกับทีมพอกัน ทว่า บาติสตูตากลับแปลงเป็นคนที่ถูกจดจำมากยิ่งกว่าในฐานะกองหน้าที่อันตรายที่สุดในโลก ในเวลาที่ รุย คอสตานั้นรับบทเป็นดาราหนังสมทบชายมากยิ่งกว่านักแสดงนำเสียเป็นส่วนใหญ่
มาถึงยุคนี้หลายคนคงได้โอกาสได้รู้จัก รุย คอสตากันมากขึ้นรวมทั้งกลายเป็นขวัญใจของใครหลายคน เพราะว่าการถ่ายทอดสดเริ่มเข้าถึงคนประเทศไทยได้ง่ายยิ่งกว่าเมื่อก่อน รวมทั้งเป็นสมัยเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ตที่มีข้อมูลให้ค้นคว้ามากมาย
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสำหรับแฟนบอลสมัยเก่าๆที่ได้อ่าน Viva Calcio รวมทั้งได้ทราบจะ รุย คอสตาในโลกหมึกนั้นจะรู้สึกยินดีและก็ผูกพันกับนักเตะคนนี้มากแค่ไหน
เนื่องจากว่าในความคิดของพวกเขานั้น รุย คอสตารับสองบทบาทเป็นอย่างมากใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเป็นเพลย์เมคเกอร์ระดับเวิลด์คลาสในโลกที่ความเป็นจริง แล้วก็ลูกหาบที่เปลี่ยนเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการ์ตูนที่อยู่ในใจตลอดกาลนั่นเอง
